กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษี 30,000

กองทุน Thai ESG ปี 2567 ลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท ทำอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหากองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกองทุน Thai ESG กองทุนที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น อยากรู้ว่ากองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่? บทความนี้มีคำตอบ

กองทุน Thai ESG คืออะไร?


กองทุน Thai ESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) คือ กองทุนรวมที่ให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ลงทุนสามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหมือนการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุน SSF, กองทุน SSFX หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)

กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?


กองทุน Thai ESG เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว คนที่มองเห็นโอกาสเติบโตในหุ้นและธุรกิจที่ดำเนินงานตามหลัก ESG ในประเทศไทย รวมถึงคนที่มีความต้องการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม หรือใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุน SSF และกองทุน RMF จนเต็มสิทธิ์แล้ว

กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?


ผู้ลงทุนในกองทุน Thai ESG สามารถนำมาเงินลงทุนมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และลดหย่อนได้ไม่เกิน 300,000 บาท/คน/ปี ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องซื้อหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2569

ทั้งนี้ วงเงินลงทุนกองทุน Thai ESG จะไม่ถูกนำมานับรวมกับการลงทุนผ่านกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD),กองทุน SSF,กองทุนRMF,กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่มีเพดานการลงทุนรวมทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาท

นั่นหมายความว่า หากนำค่าลดหย่อนกองทุน Thai ESG มารวมกับค่าลดหย่อนกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ คุณจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 900,000 บาท เลยทีเดียว

กำไรจากการขายกองทุน Thai ESG ต้องเสียภาษีไหม?


กำไรที่ได้จากการขายกองทุน Thai ESG ได้รับการยกเว้นภาษีเมื่อถือกองทุนไว้ครบตามระยะเวลา 5 ปีที่กำหนดไว้เท่านั้น หากขายกองทุนก่อนครบกำหนด 5 ปี กำไรจากการขายกองทุน Thai ESG จะถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 (เงินได้พึงประเมินในรูปแบบของดอกเบี้ยและปันผล) ซึ่งนับเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี

ระยะเวลาการถือหน่วยลงทุน


หากต้องการใช้ลงทุนในกองทุน Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษี จะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน และต้องไม่ขายจนกว่าจนกว่าจะครบ 5 ปี หรือเสียชีวิต หรือทุพพลภาพก่อน

ทั้งนี้ หากทำผิดเงื่อนไข ผู้ลงทุนจะต้องคืนสิทธิลดหย่อนภาษีตั้งแต่ครั้งแรก และจะต้องเสียเงินเพิ่มและต้องนำกำไรที่ได้จากการขายกองทุน Thai ESG มาเสียภาษีด้วย

กองทุน Thai ESG กับการนับระยะเวลา


กองทุน Thai ESG ใช้การนับเวลาในการถือครองแบบวันชนวัน เช่น หากซื้อกองทุนในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 วันที่ครบ 5 ปี คือวันที่ 31 สิงหาคม 2572 และจะสามารถขายกองทุน Thai ESG ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2572 เป็นต้นไป (อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.itax.in.th/pedia/tesg/ )

ซื้อกองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษี เท่าไหร่ดี?


แม้ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะกำหนดเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% หรือไม่เกิน 300,000 บาท/คน/ปี แต่เพื่อให้คุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก่อนเริ่มต้นซื้อกองทุนคุณจะต้องรู้ก่อนว่า รายได้ของคุณมีฐานภาษีอยู่ขั้นไหน เพื่อให้คุณสามารถวางแผนซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีต่อไปได้ โดยสามารถคำนวณเงินได้สุทธิจากสูตร

“เงินได้ตลอดทั้งปี - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ฿100,000 – ค่าลดหย่อนส่วนตัว (฿60,000) – ค่าลดหย่อนเงินสมทบประกันสังคม (฿9,000) = เงินได้สุทธิ”

จากนั้นจึงนำเงินได้สุทธิไปคำนวณตามเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG เพื่อหาวงเงินที่เหมาะสมในการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีต่อไป

และหากคุณสนใจหรือมีคำถามเรื่องการลงทุนเพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cimbthai.com/th/personal/products/investment/mutual-fund.html หรือติดต่อเพื่อขอคำแนะนำการลงทุนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา โทร. 02 626 7777 หรืออีกช่องทางในการติดต่อผ่าน LINE Official Account CIMB Thai Wealth & Preferred คลิก https://lin.ee/GTvhTHd

แม้ว่า การวางแผนภาษีและการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงในการลงทุน และควรศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ครบทุกด้าน เพื่อที่คุณจะได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและรับผลประโยชน์จากกองทุนได้อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

คำเตือน : ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (ผลิตภัณฑ์ลงทุน) เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

สินเชื่อเงินสด สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย


พนักงานประจำที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป และอยากมีเงินสำรองพร้อมใช้สำหรับทุกๆ สถานการณ์ฉุกเฉิน เราขอแนะนำ สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ วงเงินสำรองแบบไม่ใช้บัตร ตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยให้คุณมีเงินสำรองพร้อมใช้ตลอดเวลา เบิก-ถอนวงเงินผ่านแอปฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และคิดดอกเบี้ยเมื่อทำการเบิกถอนวงเงินเท่านั้น

สมัครสินเชื่อเงินสด สินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ 3 ช่องทาง


เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 18% - 25% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย CLR-2% – CLR+5%
  • อัตราดอกเบี้ย CLR ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 20% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
  • ดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.55% ต่อปี (CLR-14.45%) นาน 5 รอบ บัญชีแรก หลังจากนั้นปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น18% ต่อปี (CLR-2%)
  • อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

หมายเหตุ

  • วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
  • เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777

ขอบคุณข้อมูลจาก

Share :