หากถามว่าในช่วงนี้ สิ่งที่มนุษย์เงินเดือน หรือคนทำงานหลายคนรอคอยคืออะไร คำตอบคงหนีไม่พ้น “เงินโบบัส” เป็นแน่แท้ แน่นอนว่า เราขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับโบนัสที่เป็นผลตอบแทนจากการทำงานหนักในช่วงปีที่ผ่านมาทุกคน และไม่ว่าจะเป็น เงินโบนัสที่ได้รับมาจะเป็นเงินก้อนเล็ก หรือเงินก้อนใหญ่ ก็ถือเป็นเงินก้อนที่ถ้าเอามาบริหารดีๆ จะเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ที่ได้รับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
สูตรบริหารเงินโบนัส ให้คุ้มค่า
เราขอแนะนำสูตรบริหารเงินโบนัสให้คุ้มค่า ด้วยการแบ่งเงินก้อนที่ได้รับออกเป็น 4 ส่วน คือ
1. ใช้เงินโบนัสโปะ-ปลดหนี้ก่อน 40%
สำหรับคนที่มีหนี้ ไม่ว่าจะเป็น หนี้บัตรเครดิต ที่ดอกเบี้ยกำลังเบ่งบาน หนี้ที่เกิดจากการหยิบยืมเงินคนรู้จัก หนี้บ้าน หนี้รถ ฯลฯ เงินโบนัสก้อนนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเคลียร์หนี้เหล่านี้ให้หมดไวขึ้น
หากคุณมีหนี้หลายทาง เราแนะนำให้คุณเลือกจัดการกับหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ ก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือ หนี้จากการกู้สินเชื่อบุคคล แต่หากคุณไม่มีหนี้ดังกล่าว เราแนะนำให้คุณนำ เงินก้อนไปโปะบ้าน ก็จะช่วยลดดอกเบี้ยและจำนวนงวดที่ผ่อนจ่ายลดลงได้
2. เก็บออม-เงินสำรองกรณีฉุกเฉิน 30%
เงินออม หรือ เงินสำรอง ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การปลดหนี้เลยก็ว่าได้ โดยคุณควรจัดสรรเงินออมไว้อย่างน้อย 30% เผื่อไว้เป็นสภาพคล่องยามฉุกเฉิน และเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิต
หลายคนอาจไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเงินออมส่วนนี้มากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนใหญ่มักจะแนะนำว่า คนเราควรมีเงินสำรองเก็บไว้อย่างน้อย 6 เดือน เพราะหากจับพลัดจับผลูตกงานขึ้นมา เราสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้นานถึง 6 เดือน ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการหางานใหม่ หรืออาจใช้เงินส่วนนี้ในกรณีฉุกเฉินได้ เช่น หากต้องซ่อมรถ ซ่อมบ้าน ซึ่งเมื่อนำไปใช้จ่ายแล้ว ก็ควรเติมกลับมาให้ครบ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
3. นำเงินไปลงทุนต่อยอด 20%
ควรนำเงินไปต่อยอดเพื่อให้เงินสร้างรายได้ให้ผลตอบแทนระยะยาว โดยจะลงทุนอะไรก็ได้ แต่ขอเน้นย้ำว่าต้องศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบด้วยตนเองก่อน อย่าเลือกลงทุนตามความเชื่อ หรือลงทุนตามๆ เขาไปเด็ดขาด และต้องเลือกช่องทางการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเอง ตามความเสี่ยงที่ตัวเองรับไหว อาทิ
- ฝากธนาคาร : มีทั้ง บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ ฝากดิจิทัล โดยคุณสามารถเลือกประเภทของการฝากเงินหรือดอกเบี้ยเงินฝากได้ตามความต้องการของตัวเอง
- ซื้อประกัน : ประกันมีหลายประเภท ทั้งประกันออมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ลองพิจารณาดูว่าประกันแบบใดเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด นอกจากนี้ การซื้อประกันสามารถนำไปใช้ สิทธิลดหย่อนภาษี (ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด) เพื่อลดภาระการจ่ายภาษีประจำปี
- ลงทุนในตราสารหนี้ : เป็นช่องทางการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อย แต่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร หากรับความเสี่ยงได้ต่ำก็มีพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวเลือกลงทุน ส่วนใครที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นอาจเลือกลงทุนในหุ้นกู้เอกชนแทน ทั้งนี้ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
- ลงทุนในทองคำ : ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ การลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ ฯลฯ ทองคำมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง และความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นต่ำ จึงนิยมนำมาเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน
- ลงทุนในหุ้น : ปัจจุบันสามารถลงทุนได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันของโบรกเกอร์ต่างๆ ซึ่งนอกจากส่วนต่างราคาที่จะได้รับแล้ว เรายังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น สิทธิรับเงินปันผล (กรณีบริษัทที่เราลงทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผล) การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น การจองซื้อหุ้นออกใหม่ หุ้นเพิ่มทุน ฯลฯ เป็นต้น
- ลงทุนในกองทุนรวม หรือ สลากออมสิน : ไม่ว่าจะเป็น SSF, RMF, สลากออมสิน จุดเด่นของกองทุนรวมคือใช้เงินลงทุนไม่มาก และยังมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยบริหารจัดการเงินที่เรานำไปลงทุนด้วย
- ลงทุนเปิดกิจการเล็กๆ : ส่วนใครที่อยากทำมาค้าขาย หรืออยากขายของออนไลน์ อาจจะลองศึกษาเรื่องการลงทุนเปิดกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง อาจจะเป็นแค่ร้านออนไลน์ที่สามารถทำควบคู่กับงานประจำไปด้วยก็ได้
- ลงทุนกับตัวเอง : ลงคอร์สเรียนเพื่อพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ ให้กับตัวเองเช่น คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม หรือ คอร์สเรียนภาษาที่สาม หรือด้านที่ตนเองสนใจด้านต่างๆ เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือทำตามความฝัน เป็นต้น
4. สร้างความสุขให้ตัวเอง 10%
เพื่อบาลานซ์ชีวิตให้สมดุล อย่าลืมจัดสรรเงินมาสร้างความสุขกับตัวเองบ้าง โดยแบ่งมาใช้ส่วนนี้สัก 10% เป็นรางวัลให้กับตัวเอง อยากใช้ทำอะไร ใช้เลย อาทิ
- วางแผนเที่ยว : อาจเลือกเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะมาก เพื่อให้มีเงินโบนัสเหลือไปทำอย่างอื่นได้
- แบ่งปันให้ครอบครัว : ไม่ว่าจะเป็นเงินสด ซื้อของขวัญให้ หรือพาไปทานอาหารดีๆ ด้วยกันสักมื้อ เพื่อเป็นการบอกว่า พวกเขาเป็นคนสำคัญในชีวิตของคุณ
- ซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ให้ตัวเอง : เช่น โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้าดีๆ เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ กระเป๋าแบรนด์เนมซักใบ ฯลฯ โดยอาจเลือกตามกำลังซื้อและงบที่มี
- ซื้อหนังสือดีๆ อ่าน : การอ่านหนังสือถือเป็นการเปิดโลกใหม่อย่างหนึ่ง และการซื้อหนังสือดี ๆ ให้ตัวเองสักเล่ม หรือซื้อหนังสือของนักเขียนคนโปรด ก็ถือเป็นการสร้างความสุขทางใจให้คุณได้เช่นกัน
- ตกแต่งบ้านใหม่ : ปีใหม่ทั้งที อาจปรับเปลี่ยนบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น ด้วยการตกแต่งบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของตกแต่ง ชั้นวางของ หรือกล่องจัดระเบียบบ้านใหม่ เป็นต้น
- ทำบุญหรือบริจาค : เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต อาจแบ่งปันเงินโบนัสไปทำบุญให้กับคนหรือสัตว์ที่ยากไร้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของใช้ไปบริจาค หรือโอนเงินเข้าบัญชีรับบริจาค ตามความตั้งใจของตัวคุณเองก็ได้
เงินโบนัส ต้องเสียภาษีไหม?
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ได้รับโบนัส และข้องใจว่า เงินโบนัสที่ได้รับจากบริษัทต้องเสียภาษีหรือไม่ ขอบอกตรงนี้เลยว่า เงินโบนัสที่ได้รับมานั้นถือเป็นเงินได้ประเภทเดียวกับเงินเดือนที่ได้รับ ซึ่งต้องยื่นภาษีประจำปีในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภงด.90 หรือ ภงด.91 ด้วยเช่นกัน ส่วนจะเสียเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับฐานภาษีเงินได้ของแต่ละคน
สุดท้าย สำหรับใครที่นำเงินโบนัสที่ได้มาไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตแล้ว แต่ยังมีหนี้เหลืออยู่ และอยากปิดหนี้บัตรเครดิตให้ได้เร็วขึ้น คุณสามารถเลือก รวมหนี้เป็นก้อนเดียว หรือทำการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเพิ่มเติมได้ โดยนำเงินก้อนไปปลดหนี้บัตรเครดิตที่เหลือ เพื่อช่วยลดภาระหนี้ในแต่ละเดือนลง ทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้คุณมีเงินเก็บ และมีเงินลงทุนสำหรับพัฒนาตัวเองต่อไปได้ด้วย
เราขอแนะนำ สินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพนักงานประจำ ที่มีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป สมัครง่ายโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 20,000 – 2,000,000 บาท ชำระคืนธนาคารเป็นรายเดือนเดือนละเท่าๆ กัน คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
สินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สมัครสินเชื่อออนไลน์ ได้ 3 ช่องทาง
- เว็บไซต์ https://www.cimbthaionlinecampaign.com/droplead/personal.html
- แอดไลน์ @cimbpersonalloan https://lin.ee/I1JAHpA
- สมัครสินเชื่อออนไลน์ ผ่านแอป CIMB THAI ของธนาคาร ดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android คลิก )
เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 9.99% ถึง 25% ต่อปี
หมายเหตุ
- วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
- อัตราดอกเบี้ยและ ข้อกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารประกาศกำหนด
- เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
- ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777