วิธียื่นภาษี  สำหรับ หมา แมว อินฟลูสัตว์เลี้ยงรับงาน

พาสัตว์เลี้ยงออกงาน มีเจ้านายเป็นอินฟลูฯ จัดการภาษีอย่างไรดี

เมื่อเราอยู่ในยุคที่ใครๆ ก็เป็น อินฟลูเอนเซอร์ ได้ ทำให้การมีชื่อเสียงไม่ได้มีแต่มนุษย์อย่างเราๆ เท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว ฯลฯ ก็สามารถผันตัวมาเป็นอินฟลูฯ จากการโชว์ความน่ารักหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เช่นกัน และในวันที่สัตว์เลี้ยงของเรามีงานจ้างหรือมีรายได้ขึ้นมา น้องหมา น้องแมวต้องยื่นภาษี จ่ายภาษีหรือไม่? ทาสอย่างเราต้องจัดการภาษีส่วนนี้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

รายได้ที่มาจากการเลี้ยงสัตว์คืออะไร?

หากคุณมีรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการเลี้ยงสัตว์เพื่อจำหน่าย ฆ่าสัตว์เพื่อจำหน่าย ฯลฯ รายได้ของคุณจะถูกกำหนดเป็น เงินได้ประเภทที่ 8 หรือ เงินได้ 40(8) ซึ่งเป็นเงินได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งคุณจะต้องนำรายได้ส่วนนี้มายื่นภาษีเงินได้ประจำปีด้วย และคุณสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 รูปแบบ คือ

  • หักค่าใช้จ่ายตามจริง : ต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษี
  • หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาตามที่กฎหมายกำหนด : กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่าย เพราะกฎหมายกำหนดค่าใช้จ่ายที่คุณสามารถหักเหมาไว้เรียบร้อยแล้ว

โดยกฎหมายได้กำหนดอัตราการหักค่าใช้จ่ายจากการเลี้ยงสัตว์ไว้ดังนี้

รายได้ ค่าใช้จ่ายที่หักได้
การเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด รวมถึงการขายวัตถุพลอยได้ หักแบบเหมา 60% หรือเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง
การฆ่าสัตว์จำหน่าย หรือการขายวัตถุพลอยได้ หักแบบเหมา 60% หรือเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง

สัตว์เลี้ยงรับงานโฆษณา ออกงานโชว์ตัว จ่ายภาษียังไง?


ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะมีรายได้จากการถ่ายแบบโฆษณาไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ ออกอีเวนต์ รับงานโชว์ตัว รับงานแสดง ฯลฯ แน่นอนว่า ผู้ว่าจ้างไม่สามารถจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่น้องๆ สัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้น คุณในฐานะที่เป็นเจ้าของจึงต้องเป็นฝ่ายรับเงินค่าจ้างและต้องเป็นผู้รับผิดชอบภาษีในส่วนนี้ด้วย และเมื่อคุณเป็นฝ่ายรับเงินค่าจ้างแทนสัตว์เลี้ยง ตามกฎหมายก็จะถือว่า คุณเป็นผู้มีรายได้ที่ต้องยื่นภาษีและต้องจ่ายภาษีเมื่อรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดด้วย

วิธียื่นภาษีสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง


หากคุณมีรายได้จากการรับงานโฆษณาหรือได้รับค่าจ้างจากการพาสัตว์เลี้ยงออกอีเวนต์ รายได้ดังกล่าวจะถูกจัดเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 หรือเงินได้ 40(8) ซึ่งไม่ได้รับการยกเว้นภาษีตามที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งนอกจากจะต้องยื่นภาษีเงินได้ประจำปีในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคมของทุกปีแล้ว คุณจะต้องยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย โดยกฎหมายกำหนดไว้ว่า

เงินได้ที่เข้าข่าย เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้ 40(5), เงินได้ประเภทที่ 6 เงินได้ 40(6), เงินได้ประเภทที่ 7 เงินได้ 40(7), เงินได้ประเภทที่ 8 เงินได้ 40(8) ที่มีรายได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน ของทุกปีมากกว่า 60,000 บาท(กรณีโสด) หรือคู่สมรสที่มีรายได้รวมกันเกิน 120,000 บาท จะต้องทำการยื่นภาษีครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด 94 ด้วย

มีรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ พาสัตว์เลี้ยงออกงาน รับงานโฆษณา ไม่ยื่นภาษีได้มั้ย


มนุษย์เงินเดือนที่ต้องยื่นภาษีหลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า เมื่อมีรายได้ก็ต้องยื่นภาษี (ยกเว้นเป็นรายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมายกำหนด) และปัจจุบันเงินค่าจ้างที่ได้รับจากการที่สัตว์เลี้ยงรับงานโฆษณา ออกงานอีเวนต์ หรือรับงานรีวิวต่างๆ มักจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วทั้งสิ้น ซึ่งการหักภาษี ณ ที่จ่ายนี้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด กล่าวคือ “ผู้ว่าจ้างจะต้อง หักภาษี ณ ที่จ่าย ทุกครั้งที่การจ่ายเงินนั้นเข้าข่ายเงินได้ที่ต้องถูกหักภาษี และผู้ว่าจ้างจะต้องส่งเงินภาษีแก่สรรพากรตามที่กฎหมายกำหนดด้วย”

นั่นหมายความว่า สรรพากรมีข้อมูลการรับเงินค่าจ้างของคุณอยู่ในระบบแล้ว หากคุณมีเจตนาไม่ยื่นภาษี ปิดบังรายได้ หรือยื่นภาษีไม่ครบ และหากสรรพากรตรวจสอบพบว่า คุณมีเจตนาจงใจหลบเลี่ยงภาษี คุณจะมีความผิดตามกฎหมายกำหนด คือ มีโทษปรับทางอาญา สูงสุด 200,000 บาท จำคุกสูงสุด 1 ปี และ

  • เสียเบี้ยปรับ x2 ของค่าภาษีที่ต้องจ่ายหักค่าใช้จ่ายตามจริง
  • เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย (นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดยื่นภาษี)

ทั้งนี้ การหลบเลี่ยงภาษี จงใจไม่จ่ายภาษี หรือยื่นภาษีไม่ทัน มีความผิดและบทลงโทษทางกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยคุณสามารถศึกษาบทลงโทษในการหลบเลี่ยงภาษีได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร https://www.rd.go.th.html

ทั้งหมดนี้คือ วิธียื่นภาษีสำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นอินฟลูฯ หรือเคยรับงานรีวิวที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพื่อให้คุณสามารถวางแผนภาษีและยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน และไม่ต้องเผชิญกับปัญหาลืมจ่ายภาษีหรือยื่นภาษีไม่ครบอีกต่อไป

อยากมีเงินสำรองฉุกเฉิน สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ช่วยได้

ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณในวันนี้จะเป็นอินฟลูชื่อดังหรือไม่ สิ่งที่คุณต้องวางแผนนอกจากการยื่นภาษีเงินได้ประจำปีนั่นก็คือ เงินสำรองฉุกเฉินสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ และกังวลว่าเงินสำรองที่เตรียมไว้จะไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านั้น

เราขอแนะนำ สินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ วงเงินสำรองแบบไม่ใช้บัตร ให้คุณมีเงินสำรองพร้อมใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงของคุณได้ตลอดเวลา สามารถเบิก-ถอนวงเงินผ่านแอปฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และคิดดอกเบี้ยเมื่อทำการเบิกถอนวงเงินเท่านั้น

สมัครสินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 3 ช่องทาง


เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 18% - 25% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย CLR-2% – CLR+5%
  • อัตราดอกเบี้ย CLR ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 20% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
  • ดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.55% ต่อปี (CLR-14.45%) นาน 5 รอบ บัญชีแรก หลังจากนั้นปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น18% ต่อปี (CLR-2%)
  • อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

หมายเหตุ

  • วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
  • เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777

Share :