ในช่วงเวลาที่คนไทยต้องเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ของทุกอย่างเริ่มมีราคาสูงขึ้น ตั้งแต่น้ำมันรถ ค่าอาหาร รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ทำให้ทุกคนต้องแบกรับภาระทางการเงินมากขึ้น และสำหรับใครที่ต้องผ่อนสินเชื่อบ้านอยู่ทุกๆ เดือน ก็อาจจะพบกับช่วง “ ดอกเบี้ยขาขึ้น” ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินพอสมควร
อย่างที่หลายท่านทราบกันว่าในช่วงกลางถึงปลายปี 2565 นี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มที่จะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในอัตรา 0.25% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินเชื่อบ้าน และผู้ที่ผ่อนชำระอยู่อาจต้องรับภาระจ่ายดอกเบี้ยบ้านเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาทางการเงินรุมเร้าเพราะอะไรๆ ก็ขึ้นราคา รวมถึง ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่กำลังจะปรับขึ้น บทความนี้จะขอแบ่งปันแนวทางที่น่าสนใจในการช่วยลดภาระทางการเงิน และจัดการหนี้ได้อย่างอยู่หมัด จะทำอย่างไรมาดูกันเลย
หนี้จากดอกเบี้ยบ้าน สิ่งที่คนซื้อบ้านต้องเผชิญ
จากปัจจัยหลายประการที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ที่หลาย ๆ คนได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยบ้าน แล้วต้องการแก้ปัญหาส่วนนี้ ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจลักษณะของดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกันก่อน โดยดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านจะมีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
● อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)
เป็นรูปแบบของดอกเบี้ยบ้านที่ปรับให้สูงขึ้นเมื่อถึงกำหนดเวลาที่ต้องปรับ และเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น การเรียกเก็บเงินผ่อนชำระในแต่ละงวดจึงเพิ่มสูงขึ้นด้วย หรือในอีกกรณีหนึ่งคือเรียกเก็บเท่าเดิม แต่จะไปหักชำระส่วนของดอกเบี้ยมากกว่าส่วนเงินต้น
● อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)
การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านที่มีข้อกำหนดว่าการผ่อนชำระใน 3 ปีแรกจะเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ และมีการเรียกเก็บเงินค่าผ่อนชำระต่องวดในจำนวนที่ไม่สูงมาก แต่ช่วงหลังจากปีที่ 3 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับเพิ่มสูงขึ้น กลายเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งผู้ที่ยังอยู่ในช่วงของอัตราดอกเบี้ยบ้านในลักษณะนี้จะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักเมื่อเทียบกับอีกแบบ
ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ต่อหนี้สินเชื่อบ้าน
การกู้ซื้อบ้าน คือ การกู้ยืมเงินมาเพื่อต่อยอดความมั่นคงของชีวิต เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์หากบริหารจัดการได้ดี แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวล คือเรื่องของดอกเบี้ยบ้าน ที่ถูกปรับขึ้นและสร้างความหนักใจให้กับผู้ที่กำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน หากละเลยปัญหาเรื่องดอกเบี้ยก็อาจทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น
● หนี้ไม่ลด ดอกเบี้ยเพิ่ม
เมื่อถึงเวลาปรับอัตราดอกเบี้ยให้กลายเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว จะทำให้ผู้กู้ต้องรับภาระในการชำระหนี้มากขึ้น เพราะยอดดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่หักเงินต้นเท่าเดิม หรือหักน้อยลง จึงทำให้ยอดหนี้ลดลงช้า และถูกนำมาคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ในทุกๆ งวด ยิ่งปล่อยไว้นานก็มีแต่จะพอกพูนขึ้นเป็นหนี้ก้อนโต
● ปัญหาทางการเงิน
ดอกเบี้ยบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายเงินผ่อนชำระให้มากขึ้นเพื่อลดเงินต้น ซึ่งการต้องเพิ่มยอดชำระหนี้ผ่อนบางสำหรับบางคนนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน และเกิดปัญหาทางการเงินด้านอื่นๆ ตามมาได้
● ผ่อนบ้านไม่หมดสักที
จะบอกว่าอัตราดอกเบี้ยบ้านที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นอุปสรรคของการผ่อนบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าผู้กู้ต้องชำระเงินต่องวดในยอดเดิม แต่เงินส่วนใหญ่กลับไปหักชำระกับยอดของดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ก็จะทำให้เงินต้นไม่ลดจำนวนลงง่ายๆ และจะมีการคำนวณดอกเบี้ยใหม่และเรียกเก็บแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ายอดเงินต้นจะหมด ซึ่งอาจจะใช้เวลานานมากกว่าเดิม จนเป็นการจ่ายหนี้ไปแบบไร้จุดหมาย เหมือนเสียเงินทิ้งไปกับค่าดอกเบี้ยบ้าน
จัดการปัญหาหนี้ดอกเบี้ยบ้านขาขึ้น ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน
เพราะหนี้จากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่พอกพูนนั้นสร้างปัญหาได้มากกว่าที่คุณคิด หากปล่อยค้างเอาไว้นานๆ คงไม่เกิดผลดีแน่ ขอแนะนำแนวทางดีๆ ที่จะช่วยจัดการปัญหาจากหนักให้เบาลงได้ ดังต่อไปนี้
● ปรับวิถีชีวิตและการใช้จ่าย
เราแนะนำให้คุณบริหารจัดการเงินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีเงินคงเหลือมากขึ้น โดยการเพิ่มรายรับ ซึ่งอาจจะมาจากการ หารายได้เสริม การลดรายจ่าย หรือค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นลง แนวทางนี้จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น และมีเงินมากพอที่จะไปโปะเงินต้น ให้หนี้สินเชื่อบ้านลดลงเร็วขึ้นด้วย
● เจรจาปรับหนี้
ผู้ที่กู้สินเชื่อบ้านและผ่อนชำระมาจนใกล้จะถึงช่วงที่มีการปรับดอกเบี้ยบ้านเป็นแบบลอยตัว สามารถเข้าไปติดต่อกับสถาบันการเงินเพื่อทำการเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยอาจจะมีขอ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปสักระยะหนึ่ง จากนั้นจึงหาแนวทางในการรีไฟแนนซ์บ้านต่อไป เราแนะนำให้ติดต่อกับสถาบันการเงินภายในเวลาอย่างน้อย 1 เดือนก่อนที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในสัญญาจะถูกปรับเป็นแบบลอยตัว
● รีไฟแนนซ์บ้าน
“ การรีไฟแนนซ์บ้าน” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด เพราะการรีไฟแนนซ์ คือการกู้สินเชื่อก้อนใหม่มาเพื่อปิดหนี้ก้อนเดิม ที่เต็มไปด้วยปัญหาดอกเบี้ยพอกพูน กับยอดเงินต้นที่ไม่มีท่าทีจะลดลง การได้สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์มาก็จะช่วยคลายปัญหาหนักให้เบาลง แล้วผู้กู้ก็จะได้มาผ่อนสินเชื่อก้อนใหม่ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และช่วยยืดระยะเวลาการผ่อน ไม่ให้สภาวะทางการเงินตึงเครียดจนเกินไปอีกด้วย
เรียกได้ว่า การรีไฟแนนซ์บ้าน นั้นเป็นทางออกของปัญหาหนี้ยืดเยื้อจากสินเชื่อบ้านให้กับใครหลายๆ คน หากคุณผ่อนบ้านมามากกว่า 3 ปี ลองพิจารณาบริการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านที่มีข้อเสนอดีๆ มาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับคุณ ขอแนะนำบริการ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กับอัตราดอกเบี้ย คงที่ปีแรก 1.59% ข้อเสนอสุดคุ้มอีกมากมายที่จะช่วยให้ฝันของคุณเป็นจริง
เพราะ “บ้าน” เป็นพื้นที่ที่จะมอบความปลอดภัย ความสบายใจ และความสุขให้กับคนที่อยู่อาศัย การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ที่มาพร้อมกับการจัดการเงินที่ดี จะช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ด้วยความรู้สึกที่มั่นคง ไร้ความกังวลเรื่องหนี้จากสินเชื่อบ้าน
สมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ 2 ช่องทาง
- เว็บไซต์ https://www.cimbthaionlinecampaign.com/droplead/refinance.html
- ไลน์แอด @cimbhomeloan https://lin.ee/AEA6gVV
เงื่อนไขสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา อยู่ระหว่าง 5.98% - 6.23% โดยคำนวณจากเงินวงกู้ 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 15 ปี
- อ้างอิง MRR = 9.125% ต่อปี ประกาศ ณ. วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ
- วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
- อัตราดอกเบี้ยและ ข้อกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารประกาศกำหนด
- ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777