สำหรับใครที่กำลังเป็นทาสแมวมือใหม่ หรือมีความคิดอยากเริ่มเลี้ยงแมวสักตัว และอยู่ในช่วงกำลังเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงแมว แต่ไม่แน่ใจว่า เลี้ยงแมว 1 ตัว ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? และหากวันหนึ่งเกิดเงินสะดุด หมุนเงินไม่ทัน จะหาเงินก้อนฉุกเฉินจากไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลแมว บทความนี้มีคำตอบให้กับทาสแมวฝึกหัดแล้ว
ทาสแมวอ่านก่อน อยากเลี้ยงแมว 1 ตัว ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
หลายคนคิดว่าค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมว 1 ตัวจะมีแค่ค่าอาหาร ค่ายาแมว ค่ากระบะทรายแมวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลี้ยงแมว 1 ตัวมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามสไตล์การเลี้ยงแมวของแต่ละคน อาทิ
1. เลี้ยงแมวระบบเปิด:
การเลี้ยงแมวระบบเปิด อาจจะทำให้คุณต้องเตรียมใจสำหรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพน้องแมวให้พร้อม เพราะการเลี้ยงแมวระบบเปิดมีโอกาสที่น้องแมวจะออกไปผจญภัยนอกบ้านได้ง่ายขึ้น ทำให้โอกาสที่น้องแมวจะได้รับโรคติดต่อ หรือกินของแปลกเข้าไป ทำให้น้องแมวมีปัญหาสุขภาพตามมา อาทิ หวัดแมว แมวแพ้อาหาร หรือโรคเอดส์แมว เป็นต้น
2. เลี้ยงแมวระบบปิด:
การเลี้ยงแมวระบบปิดจะช่วยป้องกันไม่ให้น้องแมวบาดเจ็บ และช่วยลดโอกาสที่น้องแมวจะติดโรคจากข้างนอกได้ประมาณหนึ่ง แต่การเลี้ยงแมวระบบปิดคุณจะต้องเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมในการเลี้ยงแมวไว้ด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณนักล่า รักอิสระ ชอบปีนป่าย
สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวในคอนโดหรือหอพัก เราขอแนะนำให้คุณมองหาคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ เพราะคอนโด Pet Friendly มักจะมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Zone) ทำให้น้องแมวมีที่วิ่งเล่น หรือออกกำลังกาย ทั้งนี้เพราะการมีพื้นที่เพียงพอให้น้องแมวจะช่วยลดความเครียดของน้องแมวได้อีกด้วย
บางบ้านอาจจะเลือกที่จะต่อเติมบ้านเพื่อทำห้องสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ โดยให้ห้องมีอุปกรณ์หรือของเล่นเพื่อน้องแมวแบบจัดเต็ม เพื่อให้น้องแมวสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ตามพฤติกรรมของน้องแมว ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมว 1 ตัว จึงไม่ได้มีแค่ค่าอาหารหรือค่ายาแมวอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ
6 ค่าใช้จ่ายต่อการเลี้ยงแมว 1 ตัว ที่เหล่าทาสแมวต้องรู้
อยากเลี้ยงแมว 1 ตัว นอกจากจะให้ความรัก ความเอาใจใส่ และการดูแลแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะต้องลงทุนในการเลี้ยงแมว 1 ตัวด้วยก็คือ “เงิน” เพราะเงินคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ชีวิตสัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข เพราะความสุขของแมวคือความสุขของทาส และไม่ว่าคุณจะเลือกเลี้ยงแมวระบบปิดในบ้าน เลี้ยงแมวระบบเปิด หรือ เลี้ยงแมวในคอนโด จะมี 6 ค่าใช้จ่ายที่ทาสแมวต้องเตรียมไว้ให้พร้อม ดังนี้
1. ค่าอาหารแมว
อาหารแมวเป็นเรื่องอันดับต้นๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ และในปัจจุบันอาหารแมวมีให้ทาสได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารเม็ด อาหารเปียกแมว อาหารเสริมบำรุงสุขภาพแมว ฯลฯ ซึ่งราคาของอาหารแมวจะแตกต่างกันออกไปตามประเภทหรือสายพันธุ์ของน้องแมวที่คุณเลือกเลี้ยง และแบรนด์ของอาหารที่คุณเลือกใช้นั่นเอง
ค่าใช้จ่ายอาหารแมวโดยประมาณ คือ
- ค่าอาหารเม็ดแมว 100 บาทต่อกิโลกรัม
- ค่าอาหารเปียกแมว 20 บาทต่อซอง
- ค่านมแพะ 50 บาทต่อกล่อง
น้องแมวแต่ละตัวมีความต้องการและรสนิยมการทานอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้น นอกจากคุณจะต้องเตรียมค่าอาหารแมวรายเดือนแล้ว คุณอาจจะต้องเตรียมเงินสำรองสำหรับค่าอาหารแมวในกรณีที่น้องแมวแพ้อาหาร หรือการเปลี่ยนอาหารในช่วงที่น้องแมวต้องการการบำรุงในด้านอื่นๆ หรือแม้แต่การเปลี่ยนอาหารเพราะน้องแมวไม่ชอบ ฯลฯ ไว้ให้พร้อมด้วยเช่นกัน
หมายเหตุ : ราคาค่าอาหารแมวจะแพงหรือถูกกว่า ขึ้นอยู่กับแบรนด์สินค้าที่คุณเลือกใช้
2. วัคซีนแมว
“สุขภาพแมวที่ดี” หมายถึง แมวแข็งแรง แมวไม่ป่วยง่าย เพื่อที่แมวจะได้อยู่กับเราไปนานๆ และเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว การฉีดวัคซีนแมวเลยจำเป็นมาก ซึ่งวัคซีนที่จะต้องฉีดให้แมว มีประเภทวัคซีนดังนี้
- วัคซีนเอดส์แมว ราคาโดยประมาณ 500 บาท
- วัคซีนลิวคีเมียแมว ราคาโดยประมาณ 400 บาท
- วัคซีนพิษสุนัขบ้า ราคาโดยประมาณ 100 บาท
- วัคซีนไข้หัดแมว ราคาโดยประมาณ 280 บาท
- วัคซีนเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ราคาโดยประมาณ 450 บาท
ค่าวัคซีนแมวถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับแมว เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ให้กับน้องแมว ซึ่งวัคซีนแมวแต่ละชนิดก็มีจำนวนเข็มและระยะห่างที่ต้องฉีดที่แตกต่างกันออกไป เช่น การฉีดวัคซีนไข้หวัดแมว จะมีโปรแกรมการฉีดคือ
- เข็มที่ 1 : ฉีดตอนแมวอายุ 2 เดือน
- เข็มที่ 2 : ฉีดตอนแมวอายุ 3 เดือน
- เข็มที่ 3 : ฉีดตอนแมวอายุ 3 เดือนครึ่ง
ทั้งนี้ โปรแกรมการฉีดวัคซีนสามารถปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของสัตวแพทย์และโรคระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น โดยราคาค่าวัคซีนแมวจะแพงหรือถูกกว่า ก็อยู่ที่สถานพยาบาล หรือคลินิกที่คุณเลือกใช้บริการ (ขอบคุณข้อมูลค่าวัคซีนแมวจาก ศูนย์สุขภาพสัตว์รังสิต โรงพยาบาลสัตว์แอทโมส)
3. ค่าใช้จ่ายเรื่องยาแมว
หลายคนคิดว่าหากเลือกเลี้ยงแมวระบบปิดไม่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเรื่องยาแมวก็ได้ เพราะน้องแมวไม่ได้ออกไปเจอใครๆ ไม่ต้องวิ่งเล่นซนจนต้องพบกับความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ แต่จริงๆ แล้วคิดผิด เพราะแมวมีโอกาสเจอเห็บหมัดหรือมีพยาธิในทางเดินอาหารได้แม้ว่าจะเลี้ยงในระบบปิด นอกจากนี้ คนเลี้ยงก็เสี่ยงต่อการเป็นพาหะนำโรคให้แมวแบบไม่รู้ตัว เช่น ไปเล่นกับแมวตัวอื่นแล้วเห็บหมัดเกาะติดตัว หรือพยาธิติดมาตามรองเท้า ฯลฯ ดังนั้น ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายยาแมว 2 ประเภทนี้เอาไว้ให้ดี
- ค่ายาป้องกันเห็บหมัด : เห็บหรือหมัดถ้าแฝงตัวอยู่ในร่างกายแมวก็จะคอยดูดเลือดแมวจนทำให้แมวมีผิวหนังอักเสบ หรือกลายเป็นโรคโลหิตจางแมว ซึ่งการหยอดยาเห็บหมัดเป็นวิธีที่คนเลี้ยงแมวนิยมทำกัน เพราะช่วยฆ่าปรสิตเหล่านั้นให้หมดไป เพื่อสุขภาพที่ดีของแมว
- ค่ายาถ่ายพยาธิแมว : พยาธิที่แฝงตัวอยู่ในระบบทางเดินอาหารของแมวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เมื่อแมวเป็นพยาธิจะมีอาการขนร่วง ขนหยาบกระด้าง ท้องเสีย มีมูกเลือดปะปน ตัวผอมแต่ท้องป่อง แน่นอนว่าส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายของแมว และคุณยังต้องถ่ายพยาธิให้แมวด้วย
ค่าใช้จ่ายยาแมว โดยประมาณ คือ
- ค่ายาป้องกันเห็บหมัด 100 บาทต่อ 1 ครั้ง
- ค่ายาถ่ายพยาธิแมว 70 บาท ต่อ1 ครั้ง
ทั้งนี้ ราคาค่ายาแมวจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับน้ำหนัก อายุของแมว รวมถึงการกำหนดราคาของโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกที่คุณเลือกใช้บริการ
4. ค่าอาบน้ำตัดขน (กรูมมิ่ง)
แมวเป็นสัตว์รักสะอาด ชอบเลียขนตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่เจ้าของแมวต้องเตรียมเงินค่าใช้จ่ายในการกรูมมิ่งขนแมวเอาไว้เช่นกัน เพราะการอาบน้ำตัดขนแมว มีข้อดีต่อเรื่องสุขภาพของแมว คือ
- ช่วยระบายความร้อนให้แมว : เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งถ้าเป็นแมวพันธุ์ขนยาวเกินไป แล้วระบายเหงื่อได้ไม่ดี แมวอาจจะเป็นฮีทสโตรกได้ การตัดขนจะช่วยป้องกันปัญหาตรงนี้ได้
- ช่วยหาปรสิตแฝงในตัวแมว : การกรูมมิ่งขนแมวจะช่วยให้เจอปรสิตที่แฝงในร่างกายของแมวได้ง่ายขึ้น เพราะไม่มีขนมาบัง เมื่อฆ่าปรสิตที่แฝงในตัวแมวได้หมด ก็จะลดปัญหาสุขภาพของแมวได้
- ช่วยป้องกันปัญหาก้อนขนติดคอ : อย่างที่บอกว่าแมวชอบเลียขนตัวเอง ถ้าขนแมวยาวเกินไป ก็ทำให้ก้อนขนเหล่านั้นไปอุดตันในทางเดินอาหาร และขนแมวไม่สามารถย่อยสลายด้วยน้ำย่อย เลยต้องขับออกมาในรูปแบบของอุจจาระหรืออาเจียน ซึ่งแน่นอนว่า นี่เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพของแมวเช่นกัน
ค่าใช้จ่ายในการกรูมมิ่งขนแมว ราคาโดยประมาณ คือ
- ค่าอาบน้ำแมว 200 บาทต่อครั้ง
- ค่าอาบน้ำแมวและค่าตัดขนแมว 400 บาท ต่อครั้ง
ทั้งนี้ ราคาค่าอาบน้ำตัดขนแมว จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับร้านและผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกใช้บริการ
5. ค่าใช้จ่ายจิปาถะ หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ของจิปาถะเหล่านี้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อแมวโดยเฉพาะ ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ไว้ย่อมมีส่วนช่วยผ่อนคลายความเครียดให้แมว แถมยังทำให้การเลี้ยงแมวของคุณสะดวกสบายมากขึ้น อาทิเช่น
- คอนโดแมว: มีไว้ให้แมวปีนป่าย กระโดดเล่นไปมา ราคาคอนโดแมวจะอยู่ประมาณ 200-3,500 บาทขึ้นไป
- กระบะทรายแมว และทรายแมว : มีไว้ให้แมวขับถ่ายเป็นที่ ราคาตั้งแต่ 80-300 บาทขึ้นไป
- ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ : นอกจากจะช่วยกลบกลิ่นอึแมวทำให้ทรายแมวสะอาดอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับเหล่าทาสแมวอีกด้วย เพราะไม่ต้องทนปวดหลังในการตักอึแมวอีกต่อไป โดยห้องน้ำแมวอัตโนมัติจะมีราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป
- ชามใส่อาหารและน้ำ : มีไว้ให้แมวได้กินดื่มได้สะดวก ราคาตั้งแต่ 50-300 บาทขึ้นไป หรือ ในกรณีที่เลือกใช้น้ำพุแมวอัตโนมัติ แบบมีระบบกรองน้ำอัตโนมัติ ที่จะทำให้คุณมั่นใจว่าน้องแมวได้ดื่มน้ำสะอาดและดีต่อสุขภาพ จะมีราคาตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป
- เครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติ : ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถให้อาหารน้องแมวได้ตรงเวลา จะมีราคาตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป
- กรงแมว หรือกระเป๋าแมว : มีไว้เผื่อพาน้องแมวไปหาหมอ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด ราคาตั้งแต่ 160-1,000บาท ขึ้นไป
- ของเล่นแมว ที่ฝนเล็บน้องแมว : รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันแมวข่วนตามเฟอร์นิเจอร์ที่อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเสียหาย มีราคาตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป
- ปลอกคอแมว : มีไว้เผื่อว่าแมวหลุดออกไปจะตามหาเจ้าของแมวถูก ราคาตั้งแต่ 50-1,000 บาทขึ้นไป
- Air-tag หรือ ปลอกคอสำหรับติดตามแมว : การใช้ปลอกคอแบบนี้เหมาะกับคนที่เลี้ยงแมวระบบเปิด ทำให้สามารถติดตามน้องแมวได้ตลอดเวลา และช่วยให้หาแมวง่ายขึ้นในกรณีที่น้องแมวหายออกไปจากบ้าน จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป
- ที่นอนแมว : มีไว้สำหรับแมวที่นอนของตัวเอง ราคาตั้งแต่100-500 บาทขึ้นไป
6. ค่ารักษาพยาบาลแมว
เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้กับทุกคน แมวของคุณก็เช่นกัน เช่น โดนแมวตัวอื่นกัด เจ็บป่วยกะทันหัน หากคุณมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ แมวจะได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องปล่อยให้น้องแมวต้องทรมาณกับความเจ็บปวดระหว่างรอการรักษากับความเจ็บปวดระหว่างรอการรักษา ซึ่งค่ารักษาพยาบาลแมวมีหลายราคาตามเงื่อนไขของอาการบาดเจ็บ
ในปัจจุบันจะมีประกันสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงแล้ว อาจจะทำให้คุณวางใจเรื่องค่ารักษาพยาบาลน้องแมวได้ส่วนหนึ่ง แต่ค่าเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายในแต่ละปี ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมเช่นกัน โดยเงินสำรองค่ารักษาพยาบาลแมวที่จะต้องมีสำหรับการเลี้ยงแมว 1 ตัว ควรอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ต่อการรักษา 1ครั้ง เพราะนอกจากค่ารักษาพยาบาลยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเช่น ค่าให้น้ำเกลือแมว ค่ายา ฯลฯ ดังนั้น เงินสำรองฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม
ทั้งหมดนี้คือ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงแมว 1 ตัวโดยประมาณที่เราทำการรวบรวมมาให้ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทาสแมวจะต้องวางแผนและเตรียมเอาไว้ให้พร้อม และสำหรับทาสแมวคนไหนที่อยากมีวงเงินสำรองพร้อมใช้ไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทางการเงิน
เราขอแนะนำ สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ วงเงินสำรองแบบไม่ใช้บัตร ให้คุณมีเงินสำรองพร้อมใช้จ่ายเพื่อน้องแมวได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหารแมว ฯลฯ และคุณสามารถเบิก-ถอนวงเงินผ่านแอปฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องหาตู้กดเงินหรือใช้บัตรกดเงินสดให้ยุ่งยาก คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และคิดดอกเบี้ยเมื่อทำการเบิกถอนวงเงินเท่านั้น
สินเชื่อบุคคล เอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คือ วงเงินสำรองพร้อมใช้ ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพนักงานประจำ ที่มีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป สมัครสินเชื่อได้ 3 ช่องทาง
- เว็บไซต์ https://www.cimbthaionlinecampaign.com/droplead/extra.html
- แอดไลน์ @cimbpersonalloan https://lin.ee/I1JAHpA
- ลูกค้าใหม่ สามารถสมัครสินเชื่อออนไลน์ ผ่านแอป CIMB THAI Digital Banking ของธนาคาร ดาวน์โหลดได้เลย ทั้งระบบ IOS และ Android คลิก
เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย
- อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 18% - 25% ต่อปี
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- อัตราดอกเบี้ย CLR ณ วันที่ 4 ต.ค. 66 = 20% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ
- วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
- อัตราดอกเบี้ยและ ข้อกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารประกาศกำหนด
- เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
- ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777