เรียน ท่านลูกค้าที่ใช้บริการ
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และพยายามมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามกฎหมายไทย
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ และสภาพของผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือธุรกรรมที่ท่านร้องขอ
ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง
ในบางกรณี ธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ และออฟไลน์เพิ่มเติม รวมถึงการเก็บรวบรวมในเชิงพาณิชย์จากแหล่งข้อมูลของบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิต (รวมถึง บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ) ธนาคารอาจรวมข้อมูลนี้เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
ในบางกรณี ธนาคารอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับกิจกรรมทางออนไลน์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของบริษัทในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเข้าชมของท่าน ทั้งนี้ หากธนาคารได้ดำเนินการดังกล่าวนี้ ธนาคารจะแจ้งเตือน และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านสามารถปฏิเสธการเก็บรวบรวมดังกล่าวได้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้ แต่ไม่จำกัดเพียง
2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่ธนาคารมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย
ธนาคารจะใช้ฐานทางกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งฐานต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่ธนาคารใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
---|---|
ผลิตภัณฑ์ และบริการ |
|
|
|
|
|
การดำเนินการตามหน้าที่ตามกฎหมาย |
|
|
|
การให้ความสนับสนุนลูกค้า |
|
|
|
การปฏิบัติการทางธุรกรรม |
|
|
|
ความปลอดภัย และการบริหารความเสี่ยง |
|
|
|
การตลาด |
|
|
|
ในกรณีที่ธนาคารอาศัยฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะพิจารณาว่า ประโยชน์ดังกล่าวของธนาคารนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือไม่ และจะต้องสามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน
ในกรณีที่ธนาคารจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมาย หรือภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาระหว่างธนาคารและท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ธนาคาร ธนาคารอาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่ธนาคารมีต่อท่าน หรือตามที่ธนาคารวางแผนว่าจะเข้าทำสัญญากับท่านได้ (เช่น เพื่อให้บริการเปิดบัญชี) ในกรณีดังกล่าว ธนาคารอาจปฏิเสธการให้บริการที่เกี่ยวข้อง แต่ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีเช่นว่านั้นในขณะที่ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นในกรณีที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้ที่ธนาคาร หรือบุคคลอื่นดังกล่าว
ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้นให้กับบุคคลอื่นดังต่อไปนี้
ในบางกรณี ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลการยืนยันตัวตน หรือข้อมูลการเข้ารหัสแบบทางเดียว (cryptographic hash) ข้อมูลการยืนยันตัวตนของบัญชีทั่วไป เช่น หมายเลขติดต่อ หรืออีเมล์เพื่อการโฆษณาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เว้นแต่ได้กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ธนาคารจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ หากธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ธนาคารดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิให้ความยินยอม หรือปฏิเสธการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ธนาคารจะปฏิบัติต่อข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของธนาคารซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกค้า และนักลงทุนในอนาคต ปัจจุบัน และในอดีตตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อย่างเคร่งครัด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนไปยังต่างประเทศ และถูกเก็บรวบรวม และ/หรือใช้ในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ประเทศเช่นว่านั้นอาจไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะได้ประกาศกำหนด ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะทำให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนดังกล่าวมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่เหมาะสม และการส่ง หรือโอนข้อมูลดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของธนาคารตามนโยบายหรือกฎเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในองค์กร (Binding Corporate Rules - BCRs) หรือสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดให้บริษัทในกลุ่มของธนาคารทุกบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เหมือนกันในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการขอรับสำเนา BCRs ท่านสามารถติดต่อธนาคารได้ที่ dpo@cimbthai.com ธนาคารอาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่านและธนาคารเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ปกป้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และ/หรือ เพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร อย่างไรก็ตามกฎหมายของบางประเทศอาจกำหนดให้ธนาคาร ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท (เช่น เปิดเผยให้กับหน่วยงานทางภาษี) ในกรณีเช่นว่านั้น ธนาคาร จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่มีสิทธิเห็น หรือเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น
4. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานตามกฎหมาย เพื่อให้บริการตามที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปีภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของธนาคารในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ ธนาคารอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้ หากธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว ธนาคารจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป)
ในกรณีที่ท่านได้ใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการจากบุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัยที่ธนาคารแนะนำให้ท่าน บุคคลที่สามดังกล่าว อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อกำหนด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบุคคลสามเหล่านั้น
5. ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านจะต้องทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของธนาคารมีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โดยจะต้องแจ้งธนาคารเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดย
ธนาคารจะขอให้ท่านปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และสมบูรณ์
6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้สถานการณ์บางประการ ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยธนาคารจะเคารพสิทธิของท่าน และจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านอย่างทันท่วงที
รายละเอียดของสิทธิของท่านเป็นไปตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
ท่านสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า ธนาคาร พนักงานของธนาคาร หรือผู้ให้บริการของธนาคารฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิใด ๆ ของท่านได้ตลอดเวลาโดยติดต่อธนาคารผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 10. (ช่องทางการติดต่อธนาคาร) ด้านล่าง ธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามสมควรหากคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซ้อน หรือมีมากเกินความจำเป็นอย่างชัดเจน ในอีกทางหนึ่ง ธนาคารอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอของท่านในสถานการณ์เหล่านั้นได้
ธนาคารอาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวตนของท่าน และรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) โดยเป็นมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ ธนาคารอาจติดต่อท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอของท่าน เพื่อที่ธนาคารจะได้สามารถดำเนินการตอบกลับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ธนาคารจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี ธนาคารอาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบ และจะแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
ท่านสามารถติดต่อธนาคารเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่ สาขาของธนาคาร หรือ CIMB Thai Care Center โทร. 0 2626 7777 และธนาคารจะพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การร้องเรียนต่อธนาคารนี้ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของท่านในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินของธนาคาร ดังนั้น ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง โดยธนาคารจะตรวจสอบ และใช้มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยขององค์กรทั้งทางกายภาพ เชิงเทคนิค และเชิงบริหารที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ธนาคารได้วางนโยบาย และมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และถูกเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ของธนาคาร โดยพนักงานของธนาคารนั้น ได้รับการอบรม และฝึกฝนให้จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมฝึกฝนดังกล่าว พนักงานจะได้รับโทษทางวินัย
8. หน้าที่ของท่าน
ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ธนาคารทราบโดยเร็วที่สุดหากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับธนาคารแล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ธนาคาร เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย
ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับธนาคาร เพื่อให้ธนาคารสามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว
ธนาคารจะตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ จึงอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง สำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนั้น สามารถดูได้จากวันที่ด้านบนของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
10. ช่องทางการติดต่อธนาคาร
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ โปรดติดต่อธนาคาร ที่
หมายเหตุ ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลใช้บังคับเมื่อบทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (ตามที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติม) ที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับกับธนาคาร